เพลงน่ารักจัง

วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

โครงงาน วันวิชาการ

โครงงาน วันวิชาการ


บทที่ 1

บทนำ

ที่มาและความสำคัญ

คน สมัยนี้มักชอบดูแลสุขภาพของตนเองอย่างมากไม่ว่าจะเรื่องการกิน การอยู่และการออกกำลังกายและแน่นอนว่าหลายๆคนเองก็ยังไม่รู้วิธีการดูแล สุขภาพอย่างถูกวิธีเพราะฉะนั้นข้าเจ้าจึงคิดหาสมุนไพรและพืชผักที่มีสรรพคุณ และประโยชน์ที่มากมายนั้นก็คือใบโกงกางนั่นเองหลายๆคนคงยังไม่รู้ว่าต้น โกงกางนี้มีประโยชน์มากมายกว่าที่คิดโดยเฉพาะใบของต้นโกงกางนั่นสามารถนำมา รักษาอาการท้องร่วงได้อีกด้วย  ต้นโกงกางมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์น้ำทั้งหลาย และยังรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดำรงไว้

จุดมุ่งหมายของโครงงาน

1.เพื่อสุขภาพที่ดี

2.เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาสุขภาพโดยใช้ประโยชน์ของใบโกงกาง

3.เพื่อศึกษาประโยชน์ของใบโกงกางเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้สูงสุด

4.เพื่อฝึกการทำงานเป็นหมู่คณะ

สมมติฐาน

ใบโกงกางทอดทำให้สุขภาพแข็งแรงและท้องไม่ร่วง

ตัวแปรต้น   ใบโกงกางใบใหญ่

ตัวแปรตาม   รสชาติที่เกิดขึ้น

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า

1.ต้นโกงกางใบใหญ่

 บทที่ 2

เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง


โกงกางใบใหญ่

โกงกางใบใหญ่ ยังมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ อีก เช่น กงเกง (นครปฐม), กงกางนอก โกงกางนอก (เพชรบุรี), กงกอน (เพชรบุรี, ชุมพร), ลาน (กระบี่), โกงกางใบใหญ่ (ภาคกลาง), กางเกง พังกา พังกาใบใหญ่ (ภาคใต้) เป็นต้น โดยสามารถพบได้ตามชายฝั่งทะเลตะวันออกของแอฟริกา ทวีปเอเชีย ภูมิภาคมาเลเซีย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ไปจนถึงหมู่เกาตองกา สำหรับในประเทศไทยจะพบต้นโกงกางใบใหญ่ได้มากตามริมคลอง ริมชายฝั่งทะเลที่มีน้ำเค็มท่วมถึงเป็นระยะเวลานาน โดยจะชอบขึ้นในบริเวณที่เป็นดินเลนปนทราย และมักจะขึ้นอยู่ในบริเวณที่ชิดติดกับแม่น้ำ

ลักษณะของโกงกางใบใหญ่

     ต้นโกงกางใบใหญ่ จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20-30 เมตร (บ้างก็ว่าสูงประมาณ 30-40 เมตร) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเหนือคอ ราก เมื่อโตเต็มที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะเปลาตรง ด้านรับแสงจะมีกิ่งก้านมาก เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลเทา เปลือกต้นค่อนข้างเรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นๆ ส่วนเปลือกในเป็นสีส้ม ในกระพี้เป็นสีเหลืองอ่อน และแก่นเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้ฝักโดยตรง โดยใช้ฝักแก่ที่ยังสมบูรณ์ไม่มีโรคและแมลงเข้ามาทำลาย โดยดูได้จากบริเวณรอยต่อของฝักกับผลจะมีปลอกสีขาวอมเหลืองหุ้มอยู่ ถ้าหากมีขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร และเป็นสีเหลืองแสดงว่าฝักแก่สมบูรณ์แล้ว หรือจะเก็บฝักที่ร่วงหล่นลงน้ำก็ได้ เพราะถ้าฝักแก่สมบูรณ์จะลอยน้ำได้ เมื่อได้ฝักมาแล้วก็ให้นำมาปลูกในทันที เพราะถ้าเก็บไว้นานเท่าไหร่ความสามารถในการงอกก็จะลดลงไปเรื่อยๆ

สรรพคุณของโกงกาง

1.ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน (ใช้เปลือกต้มกับน้ำดื่ม)

2.ช่วยแก้อาการท้องร่วง โดยใช้เปลือกนำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้น้ำจากเปลือกนำมากินแก้อาการก็ได้เช่นกัน

3.ช่วยแก้บิด บิดเรื้อรัง โดยใช้เปลือกนำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้น้ำจากเปลือกนำมากินแก้อาการก็ได้เช่นกัน

4.เปลือกใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาสมาน (เปลือก)

5.ใช้เปลือกตำแล้วนำมาพอกช่วยห้ามเลือดได้ดี หรือจะใช้ใบอ่อนเคี้ยวหรือตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบาดแผลสดและห้ามเลือดก็ได้เช่นกัน (ใบ,เปลือก) บ้างก็ว่าน้ำจากเปลือกก็ใช้ชะล้าแผลและห้ามเลือดได้เช่นกัน (น้ำจากเปลือก)

6.เปลือกนำมาต้มกับน้ำใช้ชะล้างรักษาบาดแผลเรื้อรัง หรือจะใช้น้ำจากเปลือกก็ได้ (เปลือก,น้ำจากเปลือก)

ประโยชน์ต้นโกงกาง

1.ไม้โกงกาง มีลักษณะเปลาตรง เป็นไม้ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง เหนียว ทนทาน จึงเหมาะสำหรับการนำมาแปรรูปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ใช้ในงานก่อสร้าง เช่น ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้าน หรือใช้ทำไม้เสาเข็ม ไม้ค้ำยันต่างๆ ทำเสาและหลักในที่มีน้ำทะเลขึ้นถึง ทำเยื่อกระดาษ

2.ประโยชน์ไม้โกงกางที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการนำมาใช้ทำเป็นฟืนและถ่านเกรดคุณภาพดี ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นไม้ที่ให้ความร้อนสูงและนาน (ให้ค่าความร้อนประมาณ 6,600-7,200 แคลอรี) อีกทั้งยังมีขี้เถ้าน้อยและไม่เกิดสะเก็ดไฟเมื่อนำมาใช้งานอีกด้วย

3.เปลือกของต้นโกงกางมีสารแทนนินและฟีนอลจากธรรมชาติสูงมาก อีกทั้งยังมีราคาถูกที่สุด ซึ่งสารดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ทำยา ทำหมึก ทำสี ใช้ในการฟอกหนัง ใช้ทำกาวสำหรับติดไม้ เป็นต้น

4.เปลือกมีน้ำฝาดประเภท Catechol ให้สีน้ำตาลที่สามารถนำมาย้อมสีผ้าได้ เช่น ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ

5.ป่าโกงกางมีความสำคัญอย่างมากสำหรับสัตว์ทะเลต่างๆ เนื่องจากเป็นที่วางไข่และฟักตัวอ่อน และเป็นแล่งที่มีสภาพสมดุลทางธรรมชาติสูงมาก

6.ป่าไม้โกงกาง สามารถช่วยป้องกันรักษาชายฝั่งทะเลจากการกัดเซาะของกระแสน้ำได้ และยังใช้เป็นแนวกำบังคลื่นลมที่เคลื่อนเข้ามาปะทะชายฝั่งได้เป็นอย่างดี

รากของโกงกางใบใหญ่

รากโกงกางใบใหญ่ มีรากเป็นแบบค้ำจุนขนาดใหญ่ โดยจะงอกจากลำต้นออกเป็นจำนวนมาก ดูไม่เป็นระเบียบ เพราะแตกแขนงระเกะระกะ และมีลักษณะเป็นทรงเรือนยอดรูปกรวยคว่ำแบบแคบๆ

ลักษณะของใบโกงกางใบใหญ่

ใบโกงกางใบใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับตรงข้ามกัน โดยใบแต่ละคู่จะออกแบบสลับทิศทางกัน ใบมีลักษณะเป็นรูปใบมนค่อนไปทางรูปหอก ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งแข็งเล็กๆ ส่วนฐานใบสอบเข้าหากันคล้ายกับรูปลิ่ม หน้าใบเป็นสีเขียวอ่อน ส่วนหลังใบเรียบเกลี้ยงและเป็นสีเขียวอมเหลือง และหลังใบยังมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆ เห็นได้ชัดเจนอยู่ทั่วหลังใบ โดยใบมีความกว้างประมาณ 5-13 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-18 เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวประมาณ 2.5-5.5 เซนติเมตร และยังมีหูใบสีแดงเข้มยาวประมาณ 5-9 เซนติเมตร หุ้มใบอ่อนไว้

ลักษณะของดอกโกงกางใบใหญ่

ดอกโกงกางใบฬหญ่ ออกดอกเป็นช่อแบบ Cymes ในแต่ละช่อดอกจะประกอบไปด้วยดอกประมาณ 2-12 ดอก ดอกมีสีขาวอมสีเหลือง มีกลีบอยู่รอบดอก มีอยู่ด้วย 4 กลีบ ลักษณะของกลีบรอบกลีบดอกเป็นรูปไข่ ส่วนโคนกลีบติดกัน ส่วนกลีบดอกเป็นรูปใบหอก มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ขอบของกลีบดอกจะมีขนยาวขึ้นปกคลุมอยู่ และดอกจะมีเกสรตัวผู้จำนวน 8 อัน ยาวประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร

บทที่ 3

วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนวิธีในการดำเนินงาน

วัสดุอุปกรณ์


วิธีการดำเนินงาน

วิธีการดำเนินการศึกษา

1. คณะผู้จัดทำจัดประชุมเพื่อปรึกษาและวางแผนแล้วนำเค้าโครงของโครงงาน (ตัวอย่างบทคัดย่อ) เสนอครูที่ปรึกษา  เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสม

2.คณะผู้จัดทำได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลต่างๆ

3.คณะผู้จัดทำได้ศึกษาสรรพคุณของใบโกงกางและวิธีการนำใบโกงกางให้มีประโยชน์ต่อร่างกายให้สูงสุด

4.คณะผู้จัดทำได้ประชุมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้  แล้วจัดสรรข้อมูล  เพื่อเรียงลำดับความสำคัญ  จำแนก และวิเคราะห์ผลการศึกษา

5.คณะผู้จัดทำจึงจัดพิมพ์รูปเล่มโครงงานและสื่อต่างๆ  เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

6.คณะผู้จัดทำนำเสนอผลการศึกษาโครงงานต่อผู้ชม  เพื่อให้ผู้ชมสอบถามและตอบข้อซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

กับผู้ชม

 การจัดเตรียมวัตถุดิบและวิธีการทำใบโกงกางทอด

วัตถุดิบในการทำใบโกงกางทอด

1. ใบโกงกาง(ใบใหญ่)

 2. น้ำเปล่า

 3. กุ้งสับหรือหมูสับ ปูอัด

4. น้ำมันพืช

 5. แป้งประกอบอาหาร (โกกิ)

 6. น้ำจิ่มไก่

 7. ผงปรุงรสสำเร็จรูป (บาร์บีก้า บาร์บีคิว)

อุปกรณ์ในการทำใบโกงกางทอด

1.กาละมัง

 2. ตะแกง

 3. มีด

 4. กระทะ

 5. หม้อ

 6. ทัพพี

 7. กรรไกร

 8. ตะหลิว

 9. เตาแก๊ส

 10. จาน

 11. เขียง

 12. ถาด

 13. ช้อน ส้อม

 14. ถ้วยโฟม ชามโฟม

 15. หมวก ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน

 วิธีการทำใบโกงกางทอด

1.เลือกเอาใบโกงกางใบใหญ่ที่ไม่อ่อน และไม่แก่จนเกินไป หรือใบที่ 3 นับจากยอด

 2.นำมาล้างน้ำแล้วผึ่งให้แห้ง หั่นใบโกงกางออกเป็นสามส่วน

3.นำกุ้งสับ หมูสับ หรือเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ มาทาลงบนใบโกงกางแล้วนำไปชุบแป้ง

4.นำมาทอดในน้ำมันด้วยไฟอ่อนๆ พอเหลืองได้ที่ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

5.ถ้าต้องการรสเพิ่มเติมให้ปรุงรสด้วยผงปรุงรสสำเร็จรูป

6.แต่งจานตามต้องการ

บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน

        คณะ ผู้จัดทำได้ทำแผ่นพับโดยการนำสรรพคุณประโยชน์ของใบโกงกางและวิธีการทำใบ โกงกางทอดโดยเฉพาะประวัติของต้นโกงกางใบใหญ่และได้รวบรวมศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับต้นโกงกางใบใหญ่ เป็นต้น




บทที่ 5
สรุปผลการทดลอง

จากผลการทดลองพบว่า

ใบ โกงกางทอดมีรสชาติที่อร่อยและมีกลิ่นที่หอมน่าลิ้มลองโดยเฉพาะคุณประโยชน์ ที่มากมายสามารถทำให้แก้ท้องร่วงได้จริงและทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง และส่วนต่างๆของต้นโกงกางยังสามารถนำมาทำเป็นยาได้อีกไม่ใช่แค่ใบโกงกาง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ประโยชน์

1. สามารถแปรรูปสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์

2. มีรายได้เสริมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใบโกงกางทอดเพื่อสุขภาพ

3. ได้รับความรู้จากการทำโครงงาน ทั้งการผลิต การแปรรูป




1 ความคิดเห็น: